วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2556

ยำหอยลายอบกรอบ VS ยำกุ้งอบกรอบ

วันนี้ขอนุญาติแนะนำสินค้าใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของปุ้มปุ้ย 

สะดวก พร้อมรับประทาน 



ยำหอยลายอบกรอบ


ภายในกล่องจะประกอบได้ด้วย หอยลายอบกรอบ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ น้ำยำ ผักอบแห้ง และพริกป่น
สะดวก เพียงแกะออกจากกล่อง ก็สามารถคลุกเคลัากัน พร้อมรับประทานได้ทันที



ยำกุ้งอบกรอบ


ภายในกล่องจะประกอบได้ด้วย กุ้งอบกรอบ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ น้ำยำ ผักอบแห้ง และพริกป่น

รับประทานง่ายและสะดวก เพียงแกะออกจากกล่อง คลุกเคล้าให้เข้ากัน ก็สามารถรับประทานได้ทันที
เปรียบเทียบกันให้เห็นชัดๆกันเลย ถึงความน่ารับประทานของยำหอยลายอบกรอบ และยำกุ้งอบกรอบ


หาซื้อได้ง่าย มีวางจำหน่ายแล้วใน Tops supermarket ทุกสาขา  Foodland ทุกสาขา 
The Mall ทุกสาขา Paragon , MaxValu  และร้านเจ้เล้ง นะคะ

หาซื้อมารับประทานกันได้เลยจร้า

หากสนใจสั่งซื้อเป็นจำนวนมากสามารถติดต่อได้ที่ 02-863-3288 ต่อ491,422


Lao Trip @ Vang-Vieng on Songkran (สงกรานต์นี้ที่วังเวียง April 2013)

สวัสดีจร้าช่วงนี้เริ่มเข้าหน้าร้อน เดือนเมษายน อากาศก็ร้อนๆๆๆๆ ถึงร้อนมาก-มากที่สุด

ใกล้สงกรานต์วันหยุดเข้ามาเต็มที 

ปีนี้ได้วางแผนที่จะไปเที่ยวลาว-วังเวียง-เวียงจันทร์
เนื่องจากเพื่อนที่เรียนด้วยกัน Present นักหนาว่า ต้องไปให้ได้ รับลองจะติดใน มันส์และสนุกมาก
เราก็เริ่มอยากรู้แล้วว่า  มันจะขนาดนั้นเลยเหรอวะ 
แหม!!! ของอย่างนี้มันต้องลอง  เลยหลงกลตกลงรับปากว่าจะไป
มีเพื่อนร่วมทริปทั้งหมด 5 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน
ครั้งนี้เราจะเดินทางโดยรถทัวร์จาก กรุงเทพ ไปลงที่อุดร  แล้วต่อรถไปลงที่วังเวียง
จัดการเรื่องที่พัก เรียบร้อย  เจ้ปานจัดให้
จัดการเรื่องตั๋วรถทัวร์และเรื่องท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆให้ น็อตตี้จัดให้

โปรแกรมการท่องเที่ยว 6 วัน 6 คืน  เวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการเดินทาง นั่งรถเสียเป็นส่วนใหญ่
วันแรก 20.00 น.   ออกเดินทางจากกรุงเทพ มุ่งหน้าสู่อุดรธานี ที่สถานีหมอชิต 2
วันที่ 2  05.00 น.   เดินทางถึงอุดร  หาข้าวเช้า(มืด)กินกันก่อนเดินทางต่อ เป้าหมายคือวังเวียง
             07.30       ออกเดินทางต่อ จากอุดร ต่อรถเพื่อเดินทางเข้าลาว  เวียงจันทร์ และวังเวียง 
             16.00       เดินทางถึงวังเวียง
                            หาข้าวกิน  มื้อไหนเนี่ย  กว่าจะได้กินอีกที เย็นเลย
                            เดินเล่น นั่งเล่น นอนเล่นกันไป
วันที่ 3                  ออกเดินทางแต่เช้า  ซื้อ One Day Trip
วันที่ 4                 ออกเดินทางแต่เช้าเพื่อไปทำกิจกรรมล่องห่วงยาง Tubing ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยงที่มาเยือนวังเวียง
วันที่ 5                  ออกเดินทางจากวังเวียง เพื่อเข้าไปพักที่เวียงจันทร์ 1 คืน ซึ่งเราไม่ได้ทำการจองที่พักไว้ ต้องเดินหากันเอง
วันที่ 6                 ออกเดินทางจากวังเวียงเพื่อเดินทางเข้ามาอุดร  ต่อรถกลับเข้ามากรุงเทพ

เป็นทริปคร่าวๆ ที่เชียนขึ้นมา ยังไม่ได้มีการเดินทางจริงนะคะ

จะเป็นยังไงต่อไป   มาคอยชมกันนะคะ

กลับมาแล้วจร้าาาาา
จากการเดินทางไปลาวมาครั้งนี้ ได้รับประสบการณ์มาก สนุกและมันส์สุดๆๆไปเลยคร้าาา

วันแรกเริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้ในวันที่ 11 เมษายน 2556 เวลา 20.30 ที่สถานนี้ขนส่งของสมบัติทัวร์ ตั้งอยู่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้ปตท.ค่ะ  สมาชิกร่วมเดินทางมี 5 คน เป็น หญิง 2 คน ชาย 3 คนจร้า

วันที่สอง  (12 เมษายน 2556 ) เดินทางมาถึงอุดรประมาณ 7 เช้า เนื่องจากรถติดมากมาย กว่าจะออกจากกรุงเทพมาได้  รถทัวร์ต้องวิ่งอ้อมไปที่ลพบุรี เพื่อแวะกินข้าวที่อ.ชัยบาดาล ตอนตี 1 (พระเจ้า ข้าวมืื้อไหนเนี่ย???!!!)  แล้วจึงออกเดินทางต่อ  กว่าจะมาถึงอุดรได้ ก็ปาเข้าไป 7 โมงเช้า 

แต่ไม่เป็นไร รถรอบแรกที่จะออกจากอุดรไปวังเวียง 8.30 น.  เมื่อมาถึงขนส่งอุดร  เราก็ออกไปหาซื้อตั๋วรถจากอุดร เพื่อเดินทางเข้าลาว - วังเวียง  ค่ารถจากอุดรไปวังเวียง  320 บาทต่อน เวลาซื้อตั๋วรถทั้วร์ เราก็ต้องยื่น passport ของแต่ละคนให้กับเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วด้วย

จากนั้นเราก็เดินออกมาหาข้าวเช้ากินกันก่อน แถวหน้าขนส่งอุดร จะมีร้านอาหารเช้าของคนอุดรขายอยู่ เราก็สั่งไข่กระทะกินกัน  ได้ทีล้างหน้าแปรงฟัน เข้าห้องนี้ที่ร้านนี้ได้เลยค่ะ

เมื่อถึงเวลารถออก คนขับรถก็มาแจกในผ่านแดนไทย และลาว  และขอเก็บเงินเพิ่มอีกคนละ 5 บาท เนื่องจากเป็นวันหยุดต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้คนที่ด่านเพิ่ม เพื่อความรวดเร็ว คนขับรถจึงจัดการเก็บและนำไปจ่ายให้เราเลย ระหว่างทางเราก็กรอกใบผ่านแดนทั้งไทยและลาวไว้รอเลยค่ะ  รถทัวร์จะจอดรับคนเพิ่มที่ขนส่งหนองคายด้วยค่ะ  เราสามารถมาต่อรถเข้าวังเวียงที่หนองคายเลยก็ได้ค่ะ ค่ารถจากหนองคาย 280 บาทต่อคนค่ะ

เมื่อเดินทางมาถึงด่านขาออก (ตามรูปเลยค่ะ)  เราก็ยื่นเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย แล้วก็เดินไปขึ้นรถเพื่อข้าวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เดินทางต่อเพื่อข้ามไปฝั่งลาวจร้าาา


ต่อคิวยื่นเอกสารผ่านแดนให้กับเจ้าหน้าที่ค่ะ

แลกเงินมาแล้วจร้า  รวยกันเป็นล้านเลยจร้า  5555
เมื่อมาถึงด่านขาเข้าฝั่งลาว  เราก็ต้องแยกหน้าที่กันไปทำค่ะ เนื่องจากเรายังไม่ได้แลกเงินมา  เพื่อนส่วนหนึ่งจึงต้องไปแลกเงิน แนะนำเรื่องการแลกเงินค่ะ  ถึงแม้ในประเทศลาวจะรับเงินไทยก็๋ตาม แต่เราก็ควรที่จะแลกเงินไปให้เรียบร้อย เนื่องจากเวลาเราจ่ายหากเราจ่ายเป็นเงินกีบ หากแลกกับธนาคาร เรทจะอยู่ที่ประมาณ 260 กีบต่อบาท  แต่ถ้าเราจ่ายเงินซื้อสินค้าเป็นเงินบาทในประเทศลาว เรทจะอยู่ที่ 250 กีบต่อบาทค่ะ (ขาดทุนนิดหน่อย แต่รวมๆกันก็เยอะนะคะ) เราไปกัน 5 คนและเงินไป 5,000 บาท เป็นเงินกีบล้านกว่ากีบเลยค่ะ  รวยเบย !!! มีเงินเป็นล้าน 555555

ส่วนเพื่อนอีกส่วนหนึ่ง ต้องไปซื้อบัตร Smart Card ของฝั่งลาวค่ะ  ก่อนที่จะเข้าไปยื่นเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่ผ่านแดน  เนื่องจากลาวเค้าเปลี่ยนมาให้ระบบ Smart Card เราก็ไปแลกบัตร Smart Card นี้ก่อนเลยค่ะ  โดยการซื้อบัตรนี้จะต้องใช้ Passport ของทุกคน ค่าบัตร 40 บาทต่อคน โดยให้เพื่อนไปต่อคิวเเพียงคนเดียว แต่ถือ Passport ของทั้ง 5 คนเลยค่ะ  บัตรนี้จะมีอายุ 1 ปีค่ะ จะผ่านเข้า-ออกแต่ละครั้ง ก็ต้องไปเติมเงินเข้าไปในบัตรก่อน  (เรื่องของบัตร Smart Card นี้ทำเอาพวกเรางง เอ๋อ กันไปเลยค่ะ  5555 )

เมื่อผ่านแดนเข้ามาเสร็จ เราก็ขึ้นรถ พี่คนขับรถก็พาเราเดินทางต่อค่ะ รถจะไม่แวะเข้าไปในเวียงจันทร์นะคะ วิ่งตรงเข้าวังเวียงเลยค่ะ

เรื่องของพี่คนขับรถ สุดยอดมากเลยค่ะ  ทำหน้าที่ทุกอย่างระหว่างการเดินทางค่ะ  นอกจากขับรถแล้ว ยังทำน้าที่ให้บริการผู้โดยสาร ให้ข้อมูลต่างๆ คอยเรียกผู้โดยสารขึ้นรถ และสุดท้าย ระหว่างการเดินทาง รถเสีย!!!ในประเทศลาวค่ะ  พี่คนขับรถก็ทำหน้าที่ ซ่อมรถเองเลยค่ะ สุดยอดมากๆๆๆๆๆ


ต้นราชพฤกษ์ (หรือต้นคูน) ต้นไม้ประจำชาติของลาวค่ะ ถ่ายระหว่างรอพี่คนขับรถ มุดลงไปใต้รถเพื่อซ่อมรถค่ะ

ระหว่างที่คนขับรถซ่อมรถอยู่ จะมีร้านขายของอยู่ริมทาง เราก็ไปหาอะไรรองท้องกันก่อน ส่วนใหญ่อาหารของที่นี่จะเป็นขนมปังฝรั่งเศษ อันกลมๆใหญ่ ใส่ผัก ทูน่า แฮม แล้วแต่เราจะเลือกค่ะ ราคาอยู่ที่ประมาณ 15,000-25,000 กีบค่ะ (60-100 บาท)

เมื่อเดินทางมาถึงขนส่งของวังเวียง (เวลาประมาณ 16.00 น.) ก็ต้องต่อรถเพื่อเข้ามาในเมืองค่ะ (รถฟรี มีให้บริการที่ขนส่งเลยค่ะ ลักษณะเหมือนรถสองแถวในต่างจังหวัดบ้านเราค่ะ) ระยะทางประมาณ 2 กิโล เราก็เดินต่อมายังที่พักที่เราได้จองเอาไว้ค่ะ ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำซองค่ะ

ระหว่างทางเดินมายังที่พักค่ะ

ถึงแล้ว  ที่พักของเรา ต้องเดินข้ามสะพานด้วยค่ะ
เดินข้ามสะพานมาค่ะ


เนื่องจากวันนี้เรามาถึงวังเวียงเย็นมากแล้ว กิจกรรมต่างๆ จึงไม่สามารถทำกันได้ในวันนี้ เราจึงไปเล่นน้ำที่หน้ารีสอร์ทที่เราพักกัน (ด้านซ้ายมือให้รูปเลยค่ะ ) น้ำตื้นมาก แค่หัวเข่าเองค่ะ  หลังจากนั้นเราก็ไปเดินไปหาข้าวกินที่ร้าน ซนะไซย  อยู่ตรงหัวมุมถนน เป็นร้านที่คนเยอะที่สุด พวกเราจึงคิดว่าอร่อยที่สุด พอเข้าไปกิน ก็ไม่ได้อร่อยมากมายเท่าไหร่นะคะ  มื้อนี้จ่ายไป 250,000 กีบค่ะ (ประมาณ 1,000 บาท) จากนั้นเดินเลยไปที่ตลาดกลางแจ้งในตอนเย็น คล้ายๆ งานวัด มีรถบั๊ม ปาโป่ง มีร้านมาตั้งขายของไม่มากเท่าไหร่

จากนั้นประมาณ 2 ทุ่มเราก็เดินไปที่ผับแห่งชื่อว่า The Moon เป็นผับชื่อดังของที่นี่ ให้หน่วยกล้าตายเข้าไปก่อน  ปรากฎว่า ไม่มีคนเลย แม้แต่คนเดียวค่ะ  5555 เราเลยเดินเล่นไปที่อื่นเรื่อยๆ เดินไปเจอคนขายทัวร์ เพื่อนถูกใจเลยซื้อ one day trip มา 1 ทริป เป็นทริป ATV และพาไปบลูลากูน  (เท่าที่ทราบรายละเอียด ณ ตอนนั้นมีเท่านี้จิง) 5 คน 4,000 บาทตกคนละ 800 บาท (จ่ายเป็นเงินไทย) จากนั้นเราก็นั่งคุยกับไกด์ สอบถามถึงที่เที่ยว ผับ ที่คนชอบไป  ซึ่งคนส่วนใหญ่จะไปเที่ยวกันที่ Fat Monkey เป็นร้านของคนฝรั่งเศษ กับสามีคนลาว  พอเข้าไป เป็นร้านเล็กๆ แต่คนเยอะจิง มีแต่ต่างชาติทั้งนั้น ที่ร้านนี้เราได้เจอคนไทยชื่อพี่จิว คุยกันจนสนิทกันเลยค่ะ


วันที่ 3  (13 เมษายน 2556) เราตื่นกัน 7 โมงเช้า เพื่อมาทานอาหารเช้า (รวมอยู่ในค่าที่พักแล้วค่ะ) เพื่อออกไปตามที่เราซื้อทริปไว้ (นัดไว้ 9.00 น.)
อาหารเช้าค่ะ

ที่นั่งหน้ารีสอร์ท บรรยากาศดีมากค่ะ  กุ้ยหลินเมืองลาวค่ะ

กิจกกรมแรก ขับ ATV ข้ามสะพานไม้เล็กๆด้านหลังมาค่ะ

สภาพถนนปกติ ที่ชาวบ้านใช้กันค่ะ ลูกลัง แดด ดำเลยค่ะ

กิจกรรมที่ 2 เดินป่า พร้อมปีนเขา ขึึนไปชมวิวของวังเวียงค่ะ

ถึงแล้ว บลูลากูน มีกิ่งไม้สำหรับกระโดดน้ำ 2 ชั้นค่ะ ระดับความสูง 3 เมตร และ 7 เมตรค่ะ
นอกจากนี้ยังมีเชือกสำหรับให้โหนมากระโดดน้ำด้วยค่ะ
หลังจากนั้น ไกด์ก็พาเราเดินเข้าไปในถ้ำค่ะ ต้องมีไฟฉายสำหรับส่องทางด้วยนะคะ เค้ามีให้เช่าค่ะ แต่ไกด์จัดการให้เราเรียบร้อยค่ะ

หลังกลับมาจาก One day trip เราก็เช่าห่วงยางเพื่อมาล่องห่วงยาง ระยะทาง 5 กิโลค่าเช่า 320 บาทต่อห่วงค่ะ (Tubing)
แต่หากมาคืนเกิน 6 โมงเย็นจะถูกปรับอีกคนละ 80 บาท
สุดท้ายก็มาเกิน 6 โมงเย็น เลยถูกปรับค่ะ  T_T"


วันที่ 4 (14 เมษายน 2556) วันนี้เราซื้อ One day trip อีกเช่นกัน คนละ 360 บาท นัดกัน 9.00 น. ช่วงเช้าไกด์จะพาเราไปล่องห่วงยางเข้าไปในถ้ำ ไหว้พระ แล้วจึงพามาพายคายัคค่ะ ระยะทาง 13 กิโล
สำหรับคนที่พายเรือไม่เป็น คิดว่าไม่ไหว จะมีไกด์พายเรือให้ในแต่ละลำค่ะ เราไม่ต้องกังวลเลยค่ะ 
และระดับน้ำในแม่น้ำซองไม่ได้ลึกมากเลยค่ะ แค่หัวเข่าเองค่ะ (จะมีลึกเป็นช่วงๆ) แต่ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ มีเสื้อชูชีพให้เราใส่ค่ะ

วันที่ 5 (15 เมษายน 2556) เราซื้อตั๋วรถเพื่อเดินทางเข้ามาที่เวียงจันทร์ นอนเวียงจันทร์ 1 คืน แล้วจึงเดินทางกลับไทยในวันรุ่งขึ้นค่ะ  คืนนี้เราไปเที่ยวผับในเวียงจันทร์กันค่ะ  ชื่อ Mark 2 เป็นผับแห่งเดียวในเวียงจันทร์

วันที่ 6 (16 เมษายน 2556) รถออกจากอุดรเวลา 15.30 น.  เรามาถึงเที่ยง จึงฝากกระเป๋าไว้ที่ชาญทัวร์ แล้วเดินไปหาข้าวกินในเซ็นทรัลอุดรค่ะ อยู่ติดกับขนส่งเลยค่ะ

สรุปค่าใช้จ่ายจากการเดินทางครั้งนี้นะคะ
1.ค่าที่พัก  1,838 บาท

2.ค่าเดินทาง 1,655 บาท

3.ค่าอาหาร 1,000 บาท

4.ค่าทริปต่างๆ 1,500 บาท

รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 5,993 บาทค่ะ


จบแล้วค่ะ สำหรับ trip วังเวียง สิ่งที่ได้จากทริปนี้

 ได้มิตรภาพค่ะ มิตรภาพจากคนลาวค่ะ คนลาวรักคนไทย ดูทีวีไทย ฟังเพลงไทย เวลาเค้าเจอคนไทย เค้าจะเป็นคนเข้ามาทักเราก่อนค่ะ ว่าเป็นคนไทยใช่มั้ย ได้เพื่อนคนลาว ติอต่อกันทางเฟสบุคตลอดเลยค่ะ มิตรภาพจากเพื่อนที่ไปด้วยกัน รู้เลยว่าเราจะไม่ทิ้งกัน แม้มันจะอยากทั้งก็ตาม T_T"  ไกด์ดีมากๆเลยค่ะ ชืื่อไพรนะคะ อยู่ใกล้ร้านอาหาร ซนะไซย ค่ะ เป็นผู้ชาย ไม่ได้แต่งตัวดูดี พูดเก่ง โม้ไปเรื่อยค่ะ แต่ชอบค่ะ 5555 เป็นกันเองมากๆ
ได้ความสนุก มันส์ ฮา มีความสุขสุดๆ เลยค่ะ  เงินที่จ่ายไปสำหรับทริปนี้ คุ้มค่าสุดๆเลยค่ะ

สุดท้าย ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชม เข้ามาดูนะคะ ^_^